วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2550
ปีเตอร์ เคราช์
ปีเตอร์ เคราช์กองหน้าร่างเปรต
แอบมีลุ้นทำสถิติใหม่ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกหากเบิกร่องตาข่ายเอซี มิลานในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ได้
ดาวยิงวัย 26 ปีทำไปแล้ว 7 ประตู
ในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ซึ่งนั่นหมายความเทียบเท่าโรเจอร์ ฮันท์และสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดที่ทำได้สูงสุดในหนึ่งซีซั่นแต่จะทะยานมากกว่าเป็นสถิติใหม่ของสโมสรหากยิง"ปิศาจแดงดำ"ได้จริงๆ
"ผมเคยฝันถึงการยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิง"
"ตอนนี้ผมสามารถทำให้ความฝันที่ว่าเป็นจริงได้แล้ว ผมอยากเล่นรอบชิงและยิงประตู ผมจะทำทุกๆอย่างเพื่อเมคชัวร์ว่าผมจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่ในสนามที่เอเธนส์"
"หนึ่งในเหตุผลที่ผมย้ายมาเล่น
กับลิเวอร์พูลคือพยายามบรรลุผลสำเร็จอะไรแบบนี้แหละ ตอนที่ผมย้ายมาพวกเขาเพิ่งคว้าแชมป์มาเมื่อปี 2005 และผมเชื่ออยู่เสมอๆว่าสโมสรแห่งนี้สามารถทำเรื่องวิเศษๆได้อย่างต่อเนื่องแน่"
"นี่คือสโมสรที่สุดวิเศษที่มีผู้จัดการทีม
ฝีมือดีพาทีมคว้าชัยนับไม่ถ้วน การได้เข้าชิงอีกครั้งเป็นความสำเร็จที่เยี่ยมเหลือเกินแต่เราต้องไปต่อและตอนนี้ต้องซิวมันมาครองให้ได้"
นอกจากนี้เคราช์ยังพูดถึงบรรยากาศ
ในค่ำคืนสุดหอมหวานที่แอนฟิลด์หลังชนะจุดโทษเชลซีต่อไปว่า"โอย สนุกมาก,อะไรต่อมิอะไรถูกโยนมั่วไปหมด,เสียงตะโกนโหวกเหวกแต่มันไม่บ่อยเลยที่คุณจะได้เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกและเพื่อนๆก็กำลังเฮฮากับตัวเอ นั่นคือเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว"
"จอร์จ ยิลเล็ตต์เข้ามาในห้องแต่งตัว
ด้วยแต่ผมไม่คิดว่าเขาคงมองอะไรไม่ชัดเท่าไหรเพราะฝ้าขึ้นแว่นตาเขาตลอด"
"มีอยู่ช่วงนึงที่เราพยายามโยนเข้าลงอ่าง ผมว่าเขาได้รับการต้อนรับต่อฟุตบอลอังกฤษของจริงแล้วล่ะ!"
วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2550
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550
New Anfield
วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2550
เรื่องที่ควรรู้ ( การเรียนแบบรวดเร็วแบบเด็กอัจริยะ)
เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะสร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ
1. ต้องไม่ตั้งใจให้ลูกเป็นอัจฉริยะ
2. ต้องดูว่าลูกทำอะไรได้ดีที่สุดพ่อแม่ต้องรีบสนับสนุนทันที
3. อย่าบังคับขู่เข็ญว่าลูกต้องเป็นตามที่พ่อแม่ต้องการ
4. ให้ลูกได้มีโอกาสเจอกับคนอื่น โดยเฉพาะคนเก่งๆ เพื่อให้ช่วยกระตุ้นศักยภาพออกมา
5. พ่อแม่ต้องทุ่มเวลาและความเข้าใจในการเลี้ยงดู เพราะอัจฉริยภาพนั้นเริ่มจากความรัก ให้ลูกทำในสิ่งที่รักแล้วจะเป็นอัจฉริยะได้อย่างมีความสุข
6. พ่อแม่ต้องฝึกให้ลูกทำงานทุกชิ้นให้สำเร็จ ฝึกให้เป็นคนทำงานหนัก เพราะในโลกนี้ไม่มีอัจฉริยะคนใดขี้เกียจเลย และ
7. พ่อแม่ที่ให้ลูกเรียนเก่งอย่างเดียว ท้ายที่สุดจะพบความล้มเหลวในการทำงานในอนาคต จึงอยากให้พ่อแม่ฝึกให้ลูกรับผิดชอบกับตนเองรอบด้าน ไม่ใช่เรื่องเรียนอย่างเดียวเด็กทุกคนเกิดมามีศักยภาพในการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเรียนรู้และศักยภาพภายในที่ซ่อนอยู่ในแต่ละเรื่อง และเด็ก 1 ในหมื่นคนของแต่ละสาขาต้องเป็นอัจฉริยบุคคลได้ ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องสอนจากสิ่งที่เขาเก่ง ค้นพบจุดเด่นว่าเด็กเก่งจริง ส่วนโรงเรียนต้องมีหน้าที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ของเด็กให้สอดคล้องกับศักยภาพของเขาให้มากที่สุด\" เป็นคำพูดของ ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้กล่าวได้ว่าเป็นนักวิชาการด้านเด็กอัจริยะที่มีชื่อคนหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นประธานศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก มศว ศูนย์แห่งนี้ จะทำการวัดแววความสามารถของเด็ก เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมความรู้ความสามารถของเด็กได้ตามศักยภาพที่แท้จริง
ความสามารถของมนุษย์นั้น ผศ.ดร.อุษณีย์ บอกว่าจัดได้ 10 กลุ่ม คือ กลุ่มภาษา กลุ่มคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเคลื่อนไหว ดนตรี ศิลปะ สังคม อารมณ์ การช่างและอิเล็กทรอนิกส์ และญาณปัญญา โดยทั่วไปเด็กอัจฉริยะนั้นจะต้องแสดงความโดดเด่นออกมาอย่างน้อย 1 ด้าน ซึ่งบางคนอาจจะมีความโดดเด่นเพียงด้านเดียวหรือหลายด้านก็ได้
การวัดแววความสามารถของเด็กนั้น จะนำไปสู่การส่งเสริมการเรียนการสอนตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน เพราะหากลูกมีแววอีกด้านหนึ่ง แต่พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องการให้ลูกเป็นอีกอย่างหนึ่ง จะเป็นการทำร้ายลูกไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้วิธีการวัดแววความสามารถเด็กก็ไม่ได้ยุ่งยาก แค่เพียง พ่อ แม่ ผู้ปกครอง พาเด็กมาที่ศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก เจ้าหน้าที่จะให้เด็กเล่นตามความสนใจในมุมต่างๆ เช่น มุมวิทยาศาสตร์ มุมคณิตศาสตร์ มุมสังคมศึกษา มุมภาษา มุมดนตรี มุมอารมณ์และสังคม ฯลฯ โดยทุกมุมได้ออกแบบสื่อและกิจกรรมที่ใช้ทฤษฎีหลายทฤษฎี เช่น ทฤษฎีการพัฒนาความคิดระดับสูง ทฤษฎีทางด้านจิตวิทยาเพื่อกระตุ้นให้เด็กแสดงพฤติกรรมและความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายในให้ออกมาปรากฏอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีการสอบที่ถือเป็นการรีดเค้นทักษะศักยภาพ และไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริง
แต่ละมุมจะมีเกม จิ๊กซอว์ ของเล่น เช่น กล้องจุลทรรศน์ โน้ตบุ๊ค สัตว์ ผลไม้ รวมถึงภาพโปสเตอร์ แผนที่ หนังสือที่มีภาพประกอบ ฯลฯ เพื่อสังเกตถึงแววความถนัดและภาวะอารมณ์และสังคมของเด็ก รวมถึงข้อมูลจากแบบสอบถามและสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ปกครองเพื่อทดสอบระดับสติปัญญา (ไอคิว) ที่สำคัญศูนย์ดังกล่าวไม่ได้เน้นตรวจสอบไอคิวอย่างเดียว แต่เน้นตรวจสอบเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ และสิ่งที่เด็กแสดงออกในศูนย์ เด็กแต่ละคน จะเข้ามาทำกิจกรรมในศูนย์ประมาณ 12 ครั้ง ตามความสะดวกของผู้ปกครอง
ซึ่งศูนย์จะมีชุดแบบสำรวจแววอัจฉริยะจำนวน 3 เล่ม ได้แก่ 1. รู้จักและเข้าใจอัจฉริยะจิ๋ว 2. สำรวจแววลูกน้อย และ 3. แบบสำรวจแววอัจฉริยะ พร้อมซีดี และเอกสารวัดแววความสามารถเด็กทั้ง 9 แวว ให้ด้วย
เมื่อทำกิจกรรมครบ 12 ครั้ง จะมีคณะกรรมการ ประกอบด้วย แพทย์ นักจิตวิทยา นักการศึกษาพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา และนักวิชาการประจำศูนย์ รวมทั้งนักวิชาการสาขาที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประเมินผลความถนัดและภาวะอารมณ์ สังคม ความคิด ความถนัดพิเศษและจิตใจของเด็ก หากพบผู้ที่มีความสามารถพิเศษด้านต่างๆ จะบอกให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อจะได้ส่งเสริมให้ถูกทางต่อไป และให้ความรู้พ่อแม่เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความถนัดของเด็ก รวมถึงการพัฒนาทางอารมณ์ สังคมและจิตใจในกรณีของเด็กปกติด้วย
โดยจะมีการเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยเพื่อแนะนำการพัฒนาลูกเป็นรายๆ ไป ขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญที่สุด เพราะว่าผู้ปกครองอาจจะไม่เข้าใจลูก บางคนมีความคาดหวังกับลูกสูง บางคนเลี้ยงดูลูกมาผิดๆ การเปลี่ยนความคิด วิธีการต่างๆ จึงเป็นเรื่องยาก เราต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบจิตใจของผู้ปกครอง แต่ในขณะเดียวกันต้องหาทางให้พ่อแม่พัฒนาลูกให้ถูกทางด้วย
\"เวลาที่เด็กแต่ละคนทำกิจกรรม ในศูนย์จะเล่นโดยอิสระ โดยมีผู้ปกครองรอด้านนอก และมีแบบสอบถามให้ผู้ปกครองกรอกด้วย โดยขอความร่วมมือว่าต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และจะรับเด็กไม่มาก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างละเอียด โดยหนึ่งคนต้องดูแลเด็กประมาณ 5 คน ถ้ามากกว่านี้อาจจะเสี่ยงต่อการผิดพลาดได้\" ผศ.อุษณีย์ กล่าว
สาระน่ารู้ Liverpoolfc.tv
you'll never walk alone
หวังให้ไกลแล้วไปด้วยกันทีละก้าว
เหมือนฤดูกาลที่แล้วเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ เหลืออีกไม่กี่วันเท่านั้นที่ศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ จะเปิดฉากขึ้น โดย ลิเวอร์พูล จะประเดิมสนามในเกมเยือน แอสตัน วิลล่า วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2007 และเป็นการเริ่มต้นของเส้นทางแห่งความหวังอีกครั้ง 17 ปีที่แชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีไม่เคยกลับสู่แอนฟิลด์ ช่วงเวลาแห่งการรอคอยอันยาวนาน ช่วงเวลาที่หลายคนไม่อยากรอคอยมันอีกต่อไป แต่กระนั้นทุกอย่างต้องรอจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมปีหน้า จึงจะได้บทสรุปอย่างเป็นทางการไม่ว่าใครจะมาบั่นทอนกำลังใจ หรือความฝันความหวังของเราชาว "เดอะ ค็อป" แต่ก็ไม่มีใครห้ามความคิดของเราได้ ถึงกระนั้นเราก็ได้แต่เดินไปทีละก้าวๆ เดินไปด้วยกัน เพื่อเรียนรู้สัจธรรมของวลีประจำสโมสรที่ว่าYou'll never walk alone...